ทีมนักวิจัยจากบริษัทJSP ร่วมกันสร้าง ไรซานอลRicezanol16 น้ำมันรำจมูกข้าว ปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันสมดุ
เบาหวาน ต้อหิน โรคผิวหนัง สะเก็ดเงิน ภูมิแพ้ หอบหืด SLE เก๊าต์ รูมาตอยด์
พาร์คินสัน ไทรอยด์ ปลายประสาทอักเสบ ไขข้ออักเสบ สิวเรื้อรัง กระเพาะอักเสบ
กรดไหลย้อน ตับเสื่อม ไตวาย โรคหัวใจ(LDL)ฯลฯ
ส่วนประกอบไรซานอลRicezanol16
จมูกข้าว 100% เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากจมูกข้าวดิบ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้จากการขัดข้าวกล้อง
ให้เป็นข้าวสาร จึงมีคุณค่าทางอาหารสูง นอกจากนี้ยังสามารถสกัดสารอาหารอื่นที่มีอยู่
ในน้ำมันรำข้าว เพื่อใช้เป็นสารเสริมสุขภาพและเครื่องสำอางได้ น้ำมันจมูกข้าวเป็นน้ำมัน
ที่ได้จากกระบวนการพิเศษในการสกัดเอาสารสำคัญที่มี ประโยชน์นานาชนิดซึ่งมีอยู่ในเยื่อ
หุ้มเมล็ดข้าว (Seed Membrane layer) จึงอุดมด้วยสารสำคัญทางธรรมชาติ และมีคุณค่าสูง
ต่อร่างกาย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
-มีปริมาณสารแกมม่าโอไรซานอลจำนวนมากถึง 16 มิลลิกรัมต่อแคปซูล
-บรรจุภายในแคปซูลรูปทรงสวยงาม
ส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ใน ไรซานอลRicezanol16 คือ
•แกมม่าโอไรซานอล (GammaOryzanol)
มีฤทธิ์ในการลดระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด
เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังมีฤทธิ์ในการลดความเครียด และรักษาอาการผิดปกติ
ของสตรีวัยทอง นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ และยังป้องกันแสงยูวีได้ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก
แกมม่าโอไรซานอล สกัดได้จากน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวและจะพบมากที่สุึดในจมูกข้าว
ซึ่งมีผลต่อร่างกายหลักๆ ดังนี้ คือ
1.ระดับไขมันในเลือดสูง
จากการศึกษาในคนการใช้แกมมาโอไรซานอลในการช่วยลดระดับไขมันในเลือดพบว่า
กลุ่มคนไข้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูงเมื่อได้รับแกมม่าโอไรซานอล ทำให้ระดับ
คลอเลสเตอรอลรวม และระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลงและยังเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอล
ชนิดดี (HDL)
เมื่อทราบสารสำคัญในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแล้วเรามาทราบถึงข้อมูลของโคเลสเตอรอลบ้าง
โคเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง และเป็นส่วนประกอบสำคัญของ
ผนังเซลล์ในร่างกาย และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนต่างๆนอกจากนี้ยังพบได้ใน
กระแสเลือด ถ้ามีแต่พอเพียงก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้ามีโคเลสเตอรอลมากผิดปกติก็จะมี
โทษตามมา โดยโคเลสเตอรอลนี้จะไปพอกตามหลอดเลือดทั่วร่างกาย โดยเฉพาะหลอด
เลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองและหลอดเลือดส่วนปลาย ทั้งนี้ในระยะแรกจะไม่มีอาการ
ใดๆให้เห็นเลยถ้าไม่มีการตรวจวัดโดยการเจาะ เลือดหรือตรวจสอบ แต่จะแสดงอาการ
ให้เห็นชัดเจนเมื่อโคเลสเตอรอลพอกมากขึ้นจนอุดตันทางเดินของ หลอดเลือด ก่อให้
เกิดโรคต่างๆเช่น โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หัวใจวาย โรคหลอดเลือด สมองตีบ
อัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งถึงจุดนั้นก็ยากที่จะเยียวยาให้หายเป็นปกติ นอกจากนี้ถ้ามีปัจจัย
เสี่ยงอื่นๆเช่น เพศชาย อายุมากขึ้น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน ประวัติ
โรคหัวใจในครอบครัว หรือสูบบุหรี่ ก็จะเร่งให้เกิดโรคของหลอดเลือดเร็วกว่าปกติ
โคเลสเตอรอลมี 2 ชนิดคือ
1.โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) ซึ่งเป็นตัวการที่จะไปจับตัวพอกพูนอยู่ตามหลอดเลือด
และเป็นต้นเหตุของอาการหลอดเลือดตีบตัน ซึ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ
2. โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) เป็นเสมือนเรือขุด ที่จะไปเอาไขมันที่พอกตัวอุดตัน
หลอดเลือดอยู่กลับไปทำลายเผาผลาญที่ตับ โคเลสเตอรอลชนิดนี้ยิ่งมีมากยิ่งดี และ
จะช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
*****ไขมันอีกชนิดที่มีผลร้ายต่อสุขภาพคือไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลบ่งชี้ว่า
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่อ้วน เป็น
เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมีระดับโคเลสเตอรอล HDL ต่ำ
อาจมีคนสงสัยว่าไขมันสูงเท่าไรจึงจะเกิดอันตราย ในภาวะไขมันในเลือดสูง โดยเฉพาะ
โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด จึงควร
ตรวจระดับไขมันในเลือดเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
อันตรายของโคเลสเตอรอล คือ เป็นสาเหตุของหลอดเลือดตีบตันโดยโคเลสเตอรอล
ชนิดร้าย (LDL) ในกระแสเลือดแดงจะพอกตัวที่ผนังหลอดเลือดก่อให้เกิดคราบไขมัน
และหินปูนทำให้ หลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน
กระบวนสะสมตัวของคราบไขมันและการที่คราบหินปูนแตกออกหลุดเข้าไปในกระแส
เลือดอย่างเฉียบพลันส่งผลร้ายแรงให้เกิดอาการหัวใจวายถึงขั้นเสียชีวิตได้
กระบวนการก่อตัวของคราบหินปูนในหลอดเลือด
1. โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) ในกระแสเลือดพอกตัวที่ผนังหลอดเลือดแดง
2. ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายส่งเม็ดเลือดขาวชนิดมาโครฟาร์จมากินโคเลสเตอรอล
มาโครฟาร์จที่อ้วนพอง กลายเป็นเซลล์โฟม
3. เซลล์โฟมสะสมตัวเป็นส่วนประกอบหลักของคราบหินปูน
4. เพื่อรักษาความเรียบมันของผนังหลอดเลือดแดง เซลล์กล้ามเนื้อเรียบจะสร้างปลอก
หุ้มคราบหินปูนไว้
5. เซลล์โฟมในคราบหินปูนจะหลั่งสารเคมีที่ทำให้ปลอกหุ้มอ่อนแอ
6. ถ้าปลอกหุ้มแตก คราบหินปูนจะแทรกเข้าสู่กระแสเลือดก่อให้เกิดการสร้างลิ่มเลือดที่
สามารถขัด ขวางการไหลเวียนของเลือดได้ อาการหัวใจวาย ส่วนใหญ่เกิดในเส้นเลือด
แดงที่ถูกปิดกั้นไปกว่าร้อยละ50 และบริเวณที่มีคราบหินปูนสะสมใหม่จะมีโอกาสที่จะเกิด
รอยแตกได้มากกว่า
2.กลุ่มอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน
การรายงานว่าเมื่อกลางปีค.ศ 1950 มีการแยกการสกัด การทำให้บริสุทธิ์ของแกมม่า
โอไรซานอล ในประเทศญี่ปุ่นคนญี่ปุ่นใช้สารตัวนี้ในการักษาทางยาตั้งแต่ปีค.ศ1962
สารตัวนี้ถูกใช้ในการรักษาอาการวิตกกังวล ในปีค.ศ1970 ค้นพบว่า สารตัวนี้รักษา
กลุ่มอาการของหญิงวัยหมดประจำเดือน และปลายปี ค.ศ1980 ได้รับการยอมรับใน
การใช้รักษาระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
แกมมาโอไรซานอลถูกพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพในการรักษากลุ่มอาการของหญิง
วัยหมดประจำเดือน เช่น อาการร้อนวูบวาบ และกลุ่มอาการชราภาพ มีรายงานฉบับหนึ่ง
พบว่าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้มีอาการของวัยหมดประจำเดือนลดลงถึง
ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งจะแกมมาโอไรซานอลจะมีกลไกในการออกฤทธิ์ คือ
ลดการหลั่งฮอร์โมนลูติไนซิ่ง จากต่อมพิทูอิทาลี และเพิ่มการปลดปล่อยฮอร์โมน
เอนโดฟินจากสมองส่วนไฮโปธาลามัสแต่ผลทั้งหมดนี้ ไม่สำคัญมากเท่ากับผลที่ได้รับ
ในการทดลองทางคลีนิคที่เราต้องการ
3.การเกิดกรดในลำไส้
แกมม่าโอไรซานอลถูกนำมาใช้ในการรักษาปัญหาโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โดยการออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทควบคุมการหลั่งกรดให้ผิดไปจากเดิมที่เคยหลั่ง
กรดออกมามากก็ทำให้มีการหลั่งน้อยลงในระบบย่อยอาหารปกติ
4.การเสริมสร้างร่างกาย
แกมม่าโอไรซานอลถูกใช้ในการช่วยเสริมสร้างร่างกายแต่จะถูกควบคุมให้ดี
ขึ้นเล็กน้อยในการศึกษาในคนแต่ก็ยังคงเป็นเครื่องบ่งชี้ว่ามีคุณประโยชน์ใน เรื่องนี้
5.การใช้ในด้านอื่นๆ
แกมม่าโอไรซานอลมีผลต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง (CNS)
และระบบต่อมไร้ท่อ (endocrine system) มีการรายงานในเรื่องเหล่านี้ประปราย
ส่วนการศึกษาแกมม่าโอไรซานอลในสัตว์ทดลองมีผลเพิ่มการหลั่ง
นอร์อีพิเนฟรีน (norepinephrine) การศึกษาแกมม่าโอไรซานอลในคนมีผล
ยับยั้งการหลั่งระบบฮอร์โมนTSHในคนไข้ที่ เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย
(hypothyroidism) มีผลโดยตรงต่อสมองส่วนไฮโปธาลามัส โดยรวมแล้วความ
สำคัญของผลการศึกษาเหล่านี้มีมากเลยในการทำการทดสอบในทาง คลินิก
การศึกษาแกมม่าโอไรซานอลในผู้ฝึกออกกำลังกาย พบว่า ขนาดการกินที่
เหมาะสมคือ 500 มิลลิกรัมต่อวัน การใช้แกมม่าโอไรซานอลยังไม่มีข้อห้ามใช้
อย่างเด่นชัด ส่วนการใช้ในหญิงตั้งครรภ์มีความปลอดภัย แต่การใช้ในระยะให้
นมบุตรอาจทำให้น้ำนม หยุดไหลได้ แกมม่าโอไรซานอลไม่ทำให้เกิดกลายพันธุ์
ไม่ทำให้เกิดการยับยั้งสายโครโมโซม ไม่ทำให้เกิดมะเร็ง
ประโยชน์ของน้ำมันจมูกข้าวไรซานอลRicezanol16
•ลดโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย
สารธรรมชาติในน้ำมันจมูกข้าวหลายชนิด ได้แก่ แกมม่าโอไรซานอล วิตามินอี-กลุ่ม
โทโคไตรอีนอล ไฟโตสเตอรอลและกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3-6-9 มีส่วนช่วยลด
โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL) รวมทั้งไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ในร่างกายนอก
จากนั้นแกมม่า-โอไรซานอล ยังช่วยคงระดับหรือเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
ในร่างกายอีกด้วย
•ป้องกันโรคหัวใจและโรคร้ายที่เกิดจากหลอดเลือดตีบตัน
โคเลสเตอรอลเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน
การลดโคเลสเตอรอลจึงช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการตีบตันของหลอดเลือดได้
เช่น โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย โรคหลอดเลือดตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
•ป้องกันโรคมะเร็ง
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวนับเป็นน้ำมันที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติสูงที่สุดชนิดหนึ่ง
ได้แก่ วิตามินอี-กลุ่มโทโคฟีนอลและกลุ่มโทโคไตรอีนอล แกมม่า-โอไรซานอล และ
ไฟโตสเตอรอล ซึ่งอนุมูลอิสระ (Free radicals) เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง
•รักษาสมดุลระบบประสาท และบำรุงสมอง
วิตามินอีคอมเพล็กซ์ในน้ำมันจมูกข้าวมีคุณสมบัติช่วยรักษาสมดุลของระบบ ประสาท
บำรุงสมอง เสริมความจำป้องกันโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
•ปรับสมดุลของระบบฮอร์โมนในสตรีวัยทอง
มีงานวิจัย ยืนยันคุณค่าของแกมม่า-โอไรซานอล ที่ช่วยปรับสมดุลของระบบสตรีวัยทอง
และช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes) ได้
•บำรุงผิวพรรณ
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณหลายชนิดเช่น วิตามินอีคอมเพล็กซ์ และสาร
ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยให้ความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง ลดเลือนริ้วรอย ต้านทาน
รังสี UV ช่วยป้องกันการเกิดกระ ฝ้า จุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ที่สำคัญ
สแควลีนเป็นสารไวท์เทนนิ่ง ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
•อุดมคุณค่าสารอาหารนานาชนิดที่ช่วยบำรุงร่างกาย
น้ำมันจมูกข้าว อุดมด้วยคุณค่าของสารนานาชนิดเช่น กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามิน และแร่ธาตุซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และช่วยบำรุงร่างกาย
และผลิตภัณฑ์คุณภาพอีกมากมาย
http://www.shoppingmall.co.th/miso435
ราคาปลีก 750 บาท
ราคาสมาชิก 590 บาท(สมัครสมาชิกฟรี)
ขนาด 60 แคปซูลรัปประทานวันละ1-2 แคปซูล
โทรศัพท์สั่งซื้อสินค้าได้ในราคาสมาชิก 083-8800726 | http://www.onemorelifeonline.com/?id=miso435 |